จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
-
จังหวัดแพร่ |
|
|
|
 | หม้อห้อมไม้สัก ถิ่นรักพระลอ ช่อแฮศรีเมือง ลือเลื่องแพะเมืองผี คนแพร่นี้ใจงาม |  |
|
|
ข้อมูลทั่วไป |
|
|
จังหวัดแพร่ เป็น
จังหวัดใน
ภาคเหนือ อดีตเป็นแหล่ง
ไม้สักที่สำคัญของประเทศ มีแม่น้ำสายสำคัญไหลผ่านคือแม่น้ำยม มีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบมีทิวเขาล้อมรอบ
[แก้] สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
- ดอกไม้ประจำจังหวัด: ดอกยมหิน (Chukrasia tabularis)
- ต้นไม้ประจำจังหวัด: ต้นยมหิน (Chukrasia tabularis)
- คำขวัญประจำจังหวัด: หม้อห้อมไม้สัก ถิ่นรักพระลอ ช่อแฮศรีเมือง ลือเลื่องแพะเมืองผี คนแพร่นี้ใจงาม
[แก้] อาณาเขต
จังหวัดแพร่มีพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดอื่น ๆ ในภาคเหนือ ดังนี้
[แก้] สภาพทางภูมิศาสตร์
[แก้] ภูมิประเทศ
จังหวัดแพร่เป็นจังหวัดที่มีภูเขาล้อมรอบทั้งสี่ทิศ มีภูเขาที่สูงที่สุดอยู่ที่ ดอยกู่สถาน (บางชื่อเรียกว่าดอยขุนสถาน) สูง 1,650 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยทั่วไปพื้นที่ราบจะมีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 120-200 เมตร สำหรับตัวเมืองแพร่มีความสูง 161
[3] เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง
[แก้] ภูมิอากาศ
จังหวัดแพร่มี 3 ฤดูคือ
- ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์-กลางเดือนพฤษภาคม จะมีอากาศร้อน อบอ้าวอุณหภูมิสูงสุดที่เคยวัดได้ 43.6 องศาเซลเซียสเมื่อปี พ.ศ. 2526[4] อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดในเดือนเมษายน 37.3[5] องศาเซลเซียส
- ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม-กลางเดือนตุลาคม มีน้ำฝนเฉลี่ยต่อปีประมาณ 1,000-1,500 มิลมิเมตร
- ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม-ปลายเดือนกุมภาพันธ์ จะมีอากาศหนาวอาจถึงหนาวจัดในบางปี อุณหภูมิต่ำสุดที่เคยวัดได้ 4.6 องศาเซลเซียสเมื่อวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2517[4] อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดในเดือนมกราคม 14.4 องศาเซลเซียส[5]
[แก้] ประวัติศาสตร์
[แก้] ยุคนครรัฐ
ในปี
พ.ศ. 1371 พญาพล (หรือพญาพละราช) ได้อพยพผู้คนส่วนหนึ่งลงมาจากเมืองเชียงแสน ไชยบุรี และเวียงพางคำลงมาทางใต้ สร้างเมืองอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยมเรียกว่า "เมืองพล" หรือ "พละนคร" ตามชื่อของพญาพลผู้สร้างเมือง พญาพลได้สร้างวัดหลวงเป็นวัดแรกในปี
พ.ศ. 1371 และสร้างวิหารหลวงพลนครไว้เป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าแสนหลวงเป็นพระประธานเมือง
[แก้] ยุคอิทธิพลของสุโขทัย
ในปี พ.ศ.1826 เมื่อหริภุญไชยถูกพญามังรายตีแตกทำให้เมืองต่างๆที่เคยอยู่ในอำนาจของหริภุญไชยแยกตัวออก สำหรับเมืองแพร่ซึ่งขาดผู้ครองนคร ทางสุโขทัยจึงยกกองทัพเข้ามาโจมตี ทำให้เมืองแพร่ตกเป็นเมืองขึ้นของสุโขทัย ดังปรากฏในศิลาจารึกหลักที่ 1
[แก้] ยุคอิทธิพลของเชียงใหม่
ในปี พ.ศ.1986 พญาติโลกราชแห่งเชียงใหม่ ยกทัพมาตีเอาเมืองแพ่ โดยมีพระราชมารดาเป็นแม่ทัพ นางพญาแม่นคุนเป็นผู้ครองเมืองแพ่ไม่ออกรบ ยังคงนิ่งอยู่แต่ภายในเวียง เมื่อทัพเชียงใหม่ยิงต้นตาลแตกออกเป็นสองเสี่ยง นางพญาแม่นคุนจึงยอมแพ้ ทัพเชียงใหม่จึงเข้าเมืองได้ ทำให้เมืองแพ่ถูกผนวกในอาณาจักรล้านนา
[แก้] ยุคอิทธิพลของพม่า
ในปี พ.ศ.2101 พระเจ้าบุเรงนองยกทัพจากพม่ามาตีล้านนา ทัพล้านนาไม่สามารถต่อสู้พวกม่านได้ ล้านนาจึงกลายเป็นเมืองขึ้นของพม่า ต่อมาพระเจ้าเชียงทองแห่งล้านช้าง พญาเชียงใหม่ พญาน่าน พญาแพ่ พญาลคอน พญาเชียงราย พญาเชียงของ ก็เข้าร่วมต้านพม่าด้วย แต่ก็พ่ายแพ้แตกหนีไป ทำให้พม่าสามารถยึดล้านนาเป็นเมืองขึ้นได้อย่างสมบูรณ์
[แก้] ยุคฟื้นม่าน
พญามังไชย (ครั้งที่ 1), พญาแสนซ้าย, พญามังไชย (ครั้งที่ 2)
[แก้] ยุคเทพวงศ์
เจ้าหลวงเทพวงศ์ลิ้นทอง, เจ้าหลวงอินทวิไชยราชา, เจ้าหลวงพิมพิสารราชา, เจ้าหลวงพิริยเทพวงศ์
[แก้] กำแพงเมือง คูเมือง และ ประตูเมือง
- กำแพงเมือง เรียกว่า เมก แนวกำแพงเมืองแพร่มีลักษณะเป็นเนินดินสูงและยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์
- คูเมือง เรียกว่า น้ำคือ ส่วนใหญ่คูเมืองได้ถูกถมไปแล้ว แต่ก็ยังปรากฏบริเวณด้านประตูชัยจนถึงประตูใหม่
- ประตูเมือง มี 5 ประตู ได้แก่
- ประตูศรีชุม อยู่ทางทิศตะวันตก บริเวณศาลจังหวัดแพร่
- ประตูมาร อยู่ทางทิศใต้ บริเวณโรงเรียนป่าไม้แพร่
- ประตูใหม่ อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณเรือนจำจังหวัดแพร่ (และสามารถเห็นการจำลองประตูใหม่ ซึ่งยืมแบบมาจากประตูเมืองเชียงใหม่)
- ประตูชัย อยู่ทางทิศตะวันออก บริเวณสำนักงานตำรวจภูธรเมืองแพร่
- ประตูยั้งม้า อยู่ทางทิศเหนือ บริเวณวัดหัวข่วง
[แก้] หน่วยการปกครอง
การปกครองแบ่งออกเป็น 8
อำเภอ 78
ตำบล 645
หมู่บ้าน
[แก้] การปกครองส่วนท้องถิ่น
อำเภอเมืองแพร่
อำเภอร้องกวาง
| อำเภอลอง
อำเภอสูงเม่น
| อำเภอเด่นชัย
อำเภอสอง
| อำเภอวังชิ้น
อำเภอหนองม่วงไข่
|
[แก้] สถานที่สำคัญ
[แก้] สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ
[แก้] การศึกษา
[แก้] โรงเรียน
[แก้] โรงเรียนสังกัดเทศบาล
[แก้] ระดับอุดมศึกษา
[แก้] โรงพยาบาลในจังหวัดแพร่
[แก้] โรงพยาบาลในอดีต
[แก้] โรงพยาบาลประจำอำเภอ
[แก้] ชาวแพร่ที่มีชื่อเสียง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น