วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2554

จังหวัดชัยภูมิ

จังหวัดชัยภูมิ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จังหวัดชัยภูมิ
ตราประจำจังหวัดชัยภูมิตราผ้าพันคอลูกเสือจังหวัดชัยภูมิ
ตราประจำจังหวัดตราผ้าผูกคอลูกเสือ
เหรียญที่ระลึกประจำจังหวัดชัยภูมิด้านหน้า เหรียญที่ระลึกประจำจังหวัดชัยภูมิด้านหลัง
เหรียญที่ระลึกประจำจังหวัด
Cquote1.pngชัยภูมิ เมืองผู้กล้า พญาแลCquote2.png
ข้อมูลทั่วไป
ชื่ออักษรไทยชัยภูมิ
ชื่ออักษรโรมันChaiyaphum
ผู้ว่าราชการนายจรินทร์ จักกะพาก
(ตั้งแต่ พ.ศ. 2553)
ISO 3166-2TH-36
ต้นไม้ประจำจังหวัดขี้เหล็ก
ดอกไม้ประจำจังหวัดกระเจียว
ข้อมูลสถิติ
พื้นที่12,778.287 ตร.กม.[1]
(อันดับที่ 7)
ประชากร1,125,166 คน[2] (พ.ศ. 2552)
(อันดับที่ 16)
ความหนาแน่น88.05 คน/ตร.กม.
(อันดับที่ 52)
ศูนย์ราชการ
ที่ตั้งศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ ถนนบรรณาการ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ 36000
โทรศัพท์(+66) 0 4481 1573, 0 4482 2316
เว็บไซต์จังหวัดชัยภูมิ
แผนที่
 
แผนที่ประเทศไทย เน้นจังหวัดชัยภูมิ

สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย
จังหวัดชัยภูมิ เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ เป็นอันดับ 3 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และอันดับ 7 ของประเทศ โดยมีเนื้อที่ประมาณ 12,778.3 ตารางกิโลเมตร นับเป็นที่ตั้งของแหล่งอารยธรรมอันเก่าแก่ นับตั้งแต่สมัยทวารวดี สมัยขอม กระทั่งสมัยที่ได้รับอิทธิพลจากอาณาจักรล้านช้าง
ชัยภูมิมีเขตติดต่อกับจังหวัดเพื่อนบ้านหลายจังหวัด ได้แก่ ทางเหนือ ติดกับเพชรบูรณ์และขอนแก่น ทางตะวันออกติดกับขอนแก่นและนครราชสีมา ทางตะวันตกติดกับเพชรบูรณ์และจังหวัดลพบุรี และทางใต้ติดกับจังหวัดนครราชสีมา

เนื้อหา

[ซ่อน]

[แก้] ประวัติศาสตร์

สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เมืองชัยภูมิปรากฏในทำเนียบแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชว่าเป็นเมืองขึ้นกับเมืองนครราชสีมา แต่ต่อมาผู้คนได้อพยพออกไปตั้งหลักแหล่งทำมาหากินที่อื่น และเมื่อปี พ.ศ. 2360 "นายแล" ข้าราชการสำนักเจ้าอนุวงศ์เมืองเวียงจันทน์ได้อพยพครอบครัวและบริวารเดินทางข้ามลำน้ำโขงมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่บ้านหนองน้ำขุ่น (หนองอีจาน) ซึ่งอยู่ในบริเวณท้องที่อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมาในปัจจุบัน
ต่อมาในปี พ.ศ. 2362 เมื่อมีคนอพยพเข้ามาอยู่มาก นายแลก็ได้ย้ายชุมชนมาตั้งใหม่ที่บ้านโนนน้ำอ้อม บ้านชีลอง ห่างจากตัวเมืองชัยภูมิ 6 กิโลเมตร นายแลได้เก็บส่วยผ้าขาวส่งไปบรรณาการเจ้าอนุวงศ์จนได้รับบำเหน็จความชอบแต่งตั้งเป็น "ขุนภักดีชุมพล" ในปี พ.ศ. 2365 นายแลได้ย้ายชุมชนอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากที่เดิมกันดารน้ำ มาตั้งใหม่ที่บริเวณบ้านหลวงซึ่งตั้งอยู่ระหว่างหนองปลาเฒ่ากับหนองหลอด (เขตอำเภอเมืองชัยภูมิปัจจุบัน) และได้หันมาขึ้นตรงต่อเมืองนครราชสีมา และส่งส่วยทองคำถวายแด่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ไม่ยอมขึ้นต่อเจ้าอนุวงศ์อีกต่อไป พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้ายกบ้านหลวงขึ้นเป็น เมืองชัยภูมิ และแต่งตั้งขุนภักดีชุมพล (แล) เป็น "พระยาภักดีชุมพล" เจ้าเมืองคนแรก
ต่อมาเจ้าอนุวงศ์ได้ก่อการกบฏ ยกทัพเข้ามาหมายจะตีกรุงเทพมหานคร โดยหลอกหัวเมืองต่าง ๆ ที่เดินทัพมาว่าจะมาช่วยกรุงเทพมหานครรบกับอังกฤษ จนกระทั่งเจ้าอนุวงศ์สามารถยึดเมืองนครราชสีมาได้เมื่อปี พ.ศ. 2369 ซึ่งตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้นต่อมาเมื่อความแตก เจ้าอนุวงศ์ได้กวาดต้อนชาวเมืองนครราชสีมาเพื่อนำไปยังเมืองเวียงจันทน์
เมื่อไปถึงทุ่งสัมฤทธิ์ หญิงชายชาวเมืองที่ถูกจับโดยการนำของคุณหญิงโม ภรรยาเจ้าเมืองนครราชสีมา ได้ลุกฮือขึ้นต่อสู้ พระยาภักดีชุมพล (แล) เจ้าเมืองชัยภูมิ พร้อมด้วยเจ้าเมืองใกล้เคียงได้ยกทัพออกไปสมทบกับคุณหญิงโม ตีกระหนาบทัพเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์จนแตกพ่ายไป ฝ่ายกองทัพลาวส่วนหนึ่งล่าถอยจากเมืองนครราชสีมาเข้ายึดเมืองชัยภูมิไว้และเกลี้ยกล่อมให้พระยาภักดีชุมพลเข้าร่วมเป็นกบฏด้วย แต่พระยาภักดีชุมพลไม่ยอม เจ้าอนุวงศ์เกิดความแค้นจึงจับตัวพระยาภักดีชุมพลมาประหารชีวิตที่บริเวณใต้ต้นมะขามใหญ่ริมหนองปลาเฒ่า ซึ่งต่อมาชาวชัยภูมิได้ระลึกถึงคุณความดีที่ท่านมีความซื่อสัตย์และเสียสละต่อแผ่นดิน จึงได้พร้อมใจกันสร้างศาลขึ้น ณ บริเวณนั้น ปัจจุบันทางราชการได้สร้างศาลขึ้นใหม่เป็นศาลาทรงไทยชื่อว่า "ศาลาพระยาภักดีชุมพล (แล)" มีรูปหล่อของท่านอยู่ภายใน เป็นที่เคารพกราบไหว้และถือเป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งของจังหวัด ตั้งอยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัดชัยภูมิประมาณ 3 กิโลเมตร

[แก้] หน่วยการปกครอง

การปกครองแบ่งออกเป็น 16 อำเภอ 124 ตำบล 1393 หมู่บ้าน 29 เทศบาล
  1. อำเภอเมืองชัยภูมิ
  2. อำเภอบ้านเขว้า
  3. อำเภอคอนสวรรค์
  4. อำเภอเกษตรสมบูรณ์
  5. อำเภอหนองบัวแดง
  6. อำเภอจัตุรัส
  7. อำเภอบำเหน็จณรงค์
  8. อำเภอหนองบัวระเหว
  1. อำเภอเทพสถิต
  2. อำเภอภูเขียว
  3. อำเภอบ้านแท่น
  4. อำเภอแก้งคร้อ
  5. อำเภอคอนสาร
  6. อำเภอภักดีชุมพล
  7. อำเภอเนินสง่า
  8. อำเภอซับใหญ่
 แผนที่

[แก้] สถานที่ท่องเที่ยว

  • อุทยานแห่งชาติไทรทอง
  • ถ้ำแก้ว
  • จุดชมวิวเทือกเขาพังเหย
  • บึงแวง
  • พระพุทธรูปใหญ่สมัยทวารวดี
  • ศูนย์รวมไม้ดัดบ้านแข้
  • พระธาตุหนองสามหมื่น
  • แหล่งทอผ้าขิตบ้านโนนเสลา
  • เขื่อนจุฬาภรณ์
  • เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-ทุ่งกะมัง
  • สถานีวิจัยเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าภูเขียว
  • อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
  • น้ำตกเทพพนา
  • น้ำตกเทพประทาน
  • บึงละหาน
  • รอยเท้าและฟอสซิลไดโนเสาร์
  • สวนส้มโอ บ้านแท่น
  • บึงกาหลง
  • ศาลปู่ด้วง-ย่าดี
  • เขื่อนลำปะทาว
  • วัดชัยสามหมอ
  • พระแท่นบัลลังก์
  • พระง้าง
  • สวนรุกขชาติน้ำผุดทัพลาว
  • ภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ถ้ำแก้ว
  • เจริญปุระนคร
  • พระพุทธบาทเกือกแก้วสี่รอยเขายายหอม
  • พระพุทธบาทเขาแก้วพิศดาร(เขาน้อย)
  • วัดป่าภูเขาทอง
  • วัดป่ากุดชุมแสง
  • พระพุทธบาทเขาบ้านทิกแล้ง
  • พระพุทธบาทวัดหลักศิลา
  • เขาพระบาท
  • พระพุทธบาทสวนป่าโพธิธรรม

[แก้] สัญลักษณ์ประจำจังหวัด

  • สัญลักษณ์ประจำจังหวัด คือ รูปธงสามชาย หมายถึงธงแห่งชัยชนะสงคราม เดิมผู้ครองนครได้เลือกภูมิประเทศเพื่อตั้งเป็นเมือง พบว่าตรงจังหวัดนี้มีพื้นที่อุดมสมบูรณ์ ทำเลเหมาะแก่การสู้รบป้องกันตัว จึงตั้งเมืองขึ้นและให้สัญลักษณ์เป็นรูปธงสามแฉก
  • คำขวัญประจำจังหวัด: ทิวทัศน์สวย รวยป่าใหญ่ มีช้างหลาย ดอกไม้งาม ลือนามวีรบุรุษ สุดยอดผ้าไหม พระใหญ่ทวารวดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น